สวัสดีครับเพื่อน วันนี้ผมมีบทความเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเกม DOTA 2 มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เคยเล่น DOTA 2 คงจะรู้กันดีว่า มีฮีโร่กว่า 100 ตัวให้เลือกเล่น สุดแล้วแต่ใครจะเลือกเล่นหน้าที่ไหน แต่ว่าก็มีฮีโร่บางตัว ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยหยิบมาเล่นเลย ด้วยกิตติศัพท์ที่ว่า “เล่นยาก” เนื่องจากว่าต้องใช้ทักษะในการควบคุมตัวฮีโร่ และปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นคนอื่นๆ ในทีมมากพอสมควร และจะมีฮีโร่ตัวไหนบ้าง เรามาดูกันเลย
ฮีโร่สาย Strength
Brewmaster พ่อหมีขี้เมา
ประเดิมฮีโร่ตัวแรกด้วย Brewmaster เลยนะครับ เท่าที่ผมดูจากสกิลของฮีโร่ตัวนี้ ก็ไม่น่าจะมีสกิลไหนที่ใช้ยากนะครับ เป็นสกิลปกติ แต่ที่ว่ายากเห็นจะเป็นสกิลอัลติเมทของฮีโร่ตัวนี้นี่เอง สกิล Primal split จะทำให้พ่อหมีของเรา แยกร่างออกเป็น 3 ร่าง ประกอบไปด้วย ร่างดิน ร่างลม และร่างไฟ ไฮไลท์มันก็อยู่ตรงนี้ละครับ แต่ละร่างจะมีสกิลที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง! ซึ่งอันนี้นี่ล่ะ ที่ผมบอกว่ายาก เพราะบางคนถ้าไม่ถนัดในการคุมร่างแยกนี่จบเห่เลย อาจจะได้ตายฟรีๆ แต่ถ้าใครควบคุมได้เก่งนี่ ถือว่าดีเยี่ยมเลยนะครับ เพราะสกิลของแต่ละร่าง มีประโยชน์มาก ใช้ได้หลายสถานการณ์ เพื่อนๆ ลองไปหัดเล่นดูนะครับ
Earth Spirit จอมพลังแห่งผืนดิน
โดนลดแล้วลดอีก สำหรับฮีโร่ตัวนี้ สมัยก่อน Earth Spirit ถือว่าเป็นฮีโร่ที่โหดมาก เพราะมีทั้งสกิลหยุด (Stun) สกิลใบ้ และสกิลหลบหนี ครบสูตรไปเลย แตปัจจุบันแม้จะโดนลดความรุนแรงของสกิล และความสามารถลงบ้าง แต่ก็ยังเห็นมีคนหยิบฮีโร่ตัวนี้มันเป็นอยู่เนืองๆ ถ้าพูดถึงความยากในการเล่น น่าจะเป็นศิลปะของผู้เล่นในการใช้สกิลต่างๆ นะครับ โดยเฉพาะการใช้งานสกิลอื่นๆ ร่วมกับ Stone Remnant (สกิลรูปปั้นหิน) การดึง Stone Remnant เข้าหาตัวเพื่อทำการใบ้ หรือการผลัก Stone Remnant ออกเพื่อทำการหยุดศัตรู รวมถึงการกลิ้งเข้าและออกในระหว่างการต่อสู้ เพื่อรักษาจังหวะในการเล่นเกมด้วยครับ
IO มูลฐานแห่งจักรวาล
IO the guardian wisp เป็นฮีโร่สายซัพพอร์ทที่ผมชอบมาก เพราะมันคือฮีโร่ตัวแรกที่ผมเล่นตอนหัดเล่น DOTA 2 ใหม่ๆ นั่นเองครับ สำหรับฮีโร่ตัวนี้นะครับ คิดว่าเพื่อนๆ ที่เล่น DOTA 2 น่าจะพอรู้จักกันบ้างแล้ว และคิดว่าคงจะมีน้อยคนที่จะหยิบฮีโร่ตัวนี้มาลงเล่นบนสนามรบ เพราะว่ามันเล่นยากซะเหลือเกิน สิ่งสำคัญในการเล่นเจ้า IO คือ ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในทีม ที่ต้องดีมากๆ ด้วย เพราะสกิลของมันจะเน้นไปในด้านการช่วยเหลือเพื่อนในทีมเสียมากกว่า จังหวะการเข้าออกระหว่างรบต้องเป๊ะมากครับ ยิ่งการใช้สกิล Tether ร่วมกับ Relocate เพื่อย้ายเพื่อนไปช่วยต่อสู้ในตำแหน่งอื่นๆ บนแผนที่ ผู้ที่เล่น IO จะต้องทำการสื่อสารกับเพื่อนในทีมไว้อย่างดีมาก และเป็นแบบแผน เพื่อให้ได้เปรียบระหว่างการต่อสู้ครับ
ฮีโร่สาย Aigility
Arc Warden ผู้ขจัดความขัดแย้ง
สำหรับฮีโร่ตัวนี้ ผมไม่ค่อยได้เล่นสักเท่าไรนะครับ แล้วก็คิดว่าสกิลก็ไม่ได้ยากมาก คือสกิลของ Arc Warden เนี่ย บางสกิลจะมีประโยชน์กับเพื่อนร่วมทีม อย่างเช่น สกิล Magnetic field จะเป็นโดมครอปตัว ถ้าเราอยู่ในโดมนั้น แล้วถูกศัตรูโจมจากนอกโดม ศัตรูจะตีพลาด 100% เป็นต้นครับ ส่วนสกิลที่ยากผมคิดว่าน่าจะเป็นสกิลอัลติเมท Tempest Double ที่จะสร้างร่างเงาของ Arc Warden ขึ้นมาอีกร่าง สำคัญก็อยู่ตรงนี้ ร่างเงาของมันสามารถใช้สกิลได้ทุกสกิล และไอเทมที่ Arc Warden มีก็ใช้ได้เกือบทุกอัน (จะใช้ไม่ได้ก็แต่ของที่กินได้ หรือของที่ตกเมื่อตายเท่านั้นครับ)
Lone Druid ผู้มีจิตวิญญาณของหมี
กับมาเจอเรื่องหมีๆ อีกแล้วนะครับ กับ Lone Druid ฮีโร่ผู้เรียกหมี ควบคุมหมี และแปลงร่างเป็นหมีได้ จริงๆ บางคนที่เคยเล่นตัวนี้ อาจจะบอกว่าไม่ยากเท่าไร แต่สำหรับผมคิดว่า ที่มีการจัดให้ Lone Druid มี Complexity สูงนั้น น่าจะเป็นเพราะที่ผู้เล่นจะต้องควบคุมหมี ที่ฮีโร่เรียกขึ้นมา แล้วหมีเนี่ย มันก็มีสกิลเป็นของตัวเองด้วย ถ้าใครเล่นเป็นก็จะได้เปรียบในการต่อสู้นะ แต่ถ้าใครยังควบคุมได้ไม่เก่ง แล้วหมีตาย ฝั่งตรงข้ามก็จะได้เงินไปนะครับ เงินเยอะเสียด้วย ดังนั้น ฝีมือในการเล่นฮีโร่ตัวนี้ คงจะอยู่ที่การใช้หมีให้เป็นประโยชน์ล่ะครับ
Meepo ครอบครัวรวมพลัง
เจ้าก็อบลินตัวน้อย Meepo ตัวนี้นะครับ เป็นฮีโร่ใน DOTA 2 ตัวหนึ่งที่ผมเองยังไม่เคยหยิบมาเล่นเลย เพราะว่ามันเล่นยากมาก ปกติผมจะถนัดเล่นพวกฮีโร่ที่มียูนิตให้ควบคุมเยอะๆ อย่าง Chen อะไรประมาณนี้ แต่เจ้าตัวนี้ มันต่างกันออกไป เนื่องจากสกิลอัลติเมทของ Meepo ก็คือ Divided We Stand เป็นผลให้ Meepo มีร่างเพิ่มขึ้นมา ยิ่งถ้าอัพเกรดจนเต็มขั้น และออกไอเทม Aghanim’s scepter จะมีร่างทั้งหมด 5 ร่างเลยครับ ความยากก็อยู่ที่ต้องควบคุมร่างทั้งหมด ใครเล่นเก่งจะโหดมากครับ แต่ถ้าใครเล่นไม่เก่งนี่แย่เลยครับ เพราะแม้ว่า Meepo จะมีร่างเยอะ แต่ถ้าร่างไหนตาย ร่างทุกร่างจะตายหมดครับ! นี่ล่ะผมถึงบอกว่ามันยากยังไงล่ะ
Morphling นักรบแห่งสายน้ำ
เจ้าฮีโร่ร่างน้ำวน หรือ Morphling สกิลพื้นฐานก็เน้นไปที่การทำความเสียใส่ศัตรู และใช้ในการหลบหนีนะครับ แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่สกิลที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นสกิลที่ใช้ปรับค่าสถานะจาก Strength เป็น Agility และ จาก Agility เป็น Strength ตามลำดับ ซึ่งการปรับค่าพวกนี้ จะนำไปใช้ในสกิลที่ 2 – Adaptive Strike ซึ่งเป็นสกิลยิงกระสุนน้ำ โดยข้อกำหนดของสกิลมีอยู่ว่า ถ้ามีค่า Agility สูง สกิลจะเน้นไปที่การทำความเสียหายรุนแรง แต่ถ้ามีค่า Strength สกิลจะเน้นการหยุดฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนค่าสถานะ ยังช่วยให้ Morphling รอดจากการต่อสู้ได้ด้วย (ปรับให้อึดขึ้นจาก Strength) ดังนี้ มือไว สติมี ชำนาญสูง Morphling จะกลายเป็นฮีโร่ที่น่ากลัวตัวหนึ่งเลยล่ะครับ
ฮีโร่สาย Intelligence
Chen ผู้เข้าถึงจิตใจ
ผมคงไม่ต้องพูดถึงมาก สำหรับ Chen เพราะคิดว่าหากเพื่อนๆ เล่น DOTA 2 คงจะทราบกันดีว่า ฮีโร่ตัวนี้มีความสามารถในการควบคุมครีป (ทั้งครีปป่า และครีปเลน) และถ้าอัพเกรดด้วยไอเทม Aghanim’s scepter จะทำให้ Chen สามารถควบคุมครีป Ancient ได้อีกด้วย โดยจำนวนครีปที่ควบคุมได้ สูงสุดอยู่ที่ 4 ตัว และพวกครีปป่า หรือ Ancient ก็จะมีสกิลต่างๆ ของตัวมันเองด้วย ถือว่าได้เปรียบอย่างมาก หากนำมาใช้ร่วมในการต่อสู้ แต่ความยากน่าจะอยู่ที่การควบคุมครีปจำนวนเยอะแยะนี่ล่ะครับ บางคนคุมไม่ดีไปตันทางเดินของ Chen หรือเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้ ดังนั้น ต้องฝึกมาให้ดี มิฉะนั้นอาจโดนเพื่อนในทีมรุมได้ครับ
Oracle เทพพยากรณ์
Oracle เป็นฮีโร่สายซัพพอร์ทตัวหนึ่ง ที่ผมเองไม่ค่อยชอบสกิลมันเท่าไร โดยเฉพาะ Purifying Flames คือมันจะเป็นสกิลที่สร้างความเสียหายส่วนหนึ่งให้กับใครก็ตามที่ได้รับ และจะค่อยๆ ฟื้นฟูพลังชีวิต ประเด็นมันก็อยู่ที่ว่ามันใช้กับศัตรูได้ และมันก็จะฟื้นฟูเลือดให้ศัตรูได้ด้วย ถ้าเกิดใช้ตอนจังหวะไม่ดีเนี่ย ศัตรูอาจจะเลือดเต็มขึ้นมาได้เลย เกมพลิกเลยนะครับ เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน ฮีโร่ตัวนี้จะยากตรงที่เรื่องจังหวะครับ จังหวะในการใช้สกิลต้องแม่นยำหน่อย ที่เห็นว่าจะใช้ก็เป็น Fate’s Edict (กันเวทย์ 100% แต่ผู้ที่ได้รับจะไม่สามารถโจมตีได้) คู่กับ Purifying Flames เมื่อใช้คู่กันแล้ว ผลคือผู้ที่ได้รับสกิลจะไม่ได้รับความเสียหายจาก Purifying Flames แต่ยังสามารถฟื้นฟูเลือดได้ และอีกสกิลหนึ่งคือ False Promise เป็นสกิลที่ใช้ชะลอความเสียหาย (ย้ำนะครับว่า ชะลอ) คือผู้ที่รับสกิลจะยังไม่ถูกลดพลังชีวิตโดยทันที จะไปคิดรวมหลังจากสกิลสิ้นสุดลง และถ้าหากมีการใช้การพื้นฟูเลือดเกิดขึ้น จะเพิ่มอัตรการฟื้นฟูได้ด้วย ซึ่งในระหว่างนี้ เราสามารถใช้สกิล Purifying Flames เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้เพื่อนได้ด้วยครับ
Rubick บุตรแห่ง Aghanim จอมเวทย์ Grand Magus
ฮีโร่ตัวต่อมาคือ Rubick ลูกชาย Aghanim คนที่ประดิษฐ์ Aghanim’s scepter นั่นเองครับ หากดูจากสกิลของฮีโร่ตัวนี้แล้ว ไม่ได้มีสกิลไหนที่ใช้ยากเป็นพิเศษนะครับ แต่จะสกิลอัลติเมท Spell Steal ที่จะทำให้ Rubick สามารถขโมยสกิลล่าสุดของฮีโร่ฝั่งตรงข้ามมาใช้ได้ครับ จำนวนที่ขโมยได้คือ 2 สกิล แต่ก็จะมีระยะเวลาอยู่นะครับ ไม่ได้ว่าใช้ได้ตลอด นอกจากนี้ หาก Rubick มี Aghanim’s scepter แล้ว และสกิลที่ขโมยมาสามารถอัพเกรดได้ด้วย Aghanim’s scepter นั่นหมายถึงว่า Rubick จะสามารถใช้สกิลที่ขโมยมาในระดับ Aghanim’s scepter ได้เลยครับ (ถึงแม้ตอนนั้น ศัตรูจะไม่มี Aghanim’s scepter ก็ตาม)
Storm Spirit พลังแห่งสายฟ้า
นักรบสายฟ้าของเรา Storm Spirit ถ้าเพื่อนๆ ได้ลองศึกษาฮีโร่ตัวนี้จากสกิลโดยรวม ก็น่าจะพอทราบว่ามันไม่ได้ใช้ยากอะไรหรอกครับ แต่มันอยู่ที่ความ “พลิ้ว” ของผู้เล่นที่จะควบคุมฮีโร่นั่นเอง เนื่องจากสกิล Ball Lightning จะทำให้ตัวฮีโร่พุ่งไปที่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่ยังมีมานาให้ใช้ ซึ่งมักจะใช้คู่กันกับสกิล Static remnant และสกิลติดตัว Overload เพื่อทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง หรือถ้าศัตรูจะวิ่งหนี ก็ใช้สกิล Electric Vortex เพื่อดึงศัตรูกับเข้ามา และนี่แหละครับ ทำให้การที่จะเล่นเจ้า Storm Spirit ได้ดีนั้น ต้องอาศัยฝีมือของผู้เล่นด้วยนะครับ
Visage วิญญาณของการ์กอยล์
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่ผมได้เห็นน้อยมากในสนามรบ Visage ตัวการ์กอยล์บินได้ ผมเคยหยิบเจ้าตัวนี้มาเล่นอยู่สองครั้ง ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้าใจสกิลมันสักเท่าไร แต่เท่าที่ผมคิดว่าเล่นยาก น่าจะเป็นเพราะสกิลอัลติเมท Summon Familiars เมื่อกดใช้ จะเป็นการเรียกสัตว์เวทย์ Familiar ออกมา 2 ตัว (จะเป็น 3 ตัว เมื่อมี Aghanim’s scepter) สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเล่นฮีโร่ที่มียูนิตให้ควบคุมบ่อยๆ อาจจะเล่นฮีโร่สไตล์นี้ลำบาก เนื่องจากสัตว์เวทย์นี้มันจะถูกทำลายได้ แต่เราก็สามารถกดใช้สกิล Stone Form ของสัตว์เวทย์เพื่อให้มันตกลงมาเป็นหินบนพื้น ซึ่งมันจะทำการฟื้นฟูพลังชีวิตตัวเอง พร้อมทั้งหยุดศัตรูในบริเวณนั้นด้วยครับ ถ้าใครเล่นตัวนี้เก่งๆ ผมว่าจะกลายเป็นตัวป่วนที่น่ากลัวมาก เพราะสัตว์เวทย์ 2-3 ตัว มันสั่งให้ใช้สกิล Stone Form แยกกันได้ ดังนั้น มันจะหมายถึงการถูก Stun หมู่แบบซ้ำแล้วซ้ำเล่านั่นเอง
Invoker มหาเวทย์ Arsenal Magus
และแล้วก็มาถึงฮีโร่ตัวสุดท้าย ที่ใครๆ ก็รู้จัก นั่นคือ Carl – Invoker นั่นเอง ด้วยความชำนาญทางด้านเวทย์มนตร์ Invoker จะมีลูกแก้วพลังงาน 3 ลูก คือ Quas, Wex และ Exort ซึ่งแต่ละลูก จะให้ค่าสถานะที่แตกต่างกันออกไป และสกิลที่ Invoker มีก็แค่การเรียกลูกแก้ว และสกิลอัลติเมท Invoke เท่านั้นเองครับ แล้วมันโหดตรงไหนล่ะ? ก็โหดตรงที่ว่า หากเรากดใช้ลูกแก้ว ด้วยลำดับต่างๆ และกดใช้สกิล Invoke มันจะหมายถึงการผสมสกิลใหม่ออกมาใช้นั่นเอง โดย Invoker จะมีลูกแก้วอยู่รอบตัวได้มากสุด 3 ลูก (อาจเป็นชนิดที่ซ้ำกันได้) และจะมีสกิลผสมอยู่ในแผงควบคุมได้อีก 2 สกิล แต่ทั้งนี้ ถ้าเพื่อนๆ ดูในเกม มันจะมีบอกอยู่นะครับ ว่าต้องใช้ลูกแก้วอะไรบ้าง ในการผสมแต่ละสกิล โดยจะมีสกิลให้เลือกผสมทั้งหมด 10 สกิล นี่แหละคือความยาก เพราะนิ้วของเราจะต้องโปรจริงๆ จึงจะสามารถกดสกิลได้ทันเวลา ลองไปเล่นดูได้เลยนะครับ
เอาล่ะครับ วันนี้ผมขอจบบทความของ DOTA 2 ไว้เพียงเท่านี้นะครับ สำหรับบทความในครั้งถัดไป จะเป็นเรื่องอะไรนั้น อดใจรอกันนิดนึงนะครับ และอย่าลืมติดตามที่เว็บไซต์ “www.game-neon.com” หรือทาง “Facebook Fanpage: Game-Neon ข่าวเกมออนไลน์ เกมมือถือ” เพื่อรับการอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับ DOTA 2 กันนะครับ สวัสดีครับ