สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ผมก็มีเกมคุณภาพมานำเสนออีกเกม นั่นคือ Hellblade: Senua’s Sacrifice เกม Action adventure ระดับ AAA จากค่าย Ninja Theory ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมาครับ
ต้องขออภัยที่ครั้งนี้มารีวิวช้าไปหน่อย จริงๆ ผมซื้อเกมมาดองไว้ได้สักพักแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เล่นเลย เพราะติดธุระหลายอย่าง แต่วันนี้ว่างละ งั้นเราไปดูกันเลยว่าเกมนี้จะน่าเล่น และสนุกสมคำร่ำลือจริงหรือไม่
จากข้อความใน Steam ได้กล่าวว่า เนื้อเรื่องของเกม จะเป็นเรื่องราวของนักรบหญิงชาวเคลติกนามว่า Senua ที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ตั้งแต่หมู่บ้าน เพื่อนฝูง ครอบครัว แม้กระทั่งชายผู้เป็นที่รัก ทำให้จิตใจของเธอบอบช้ำเกินกว่าจะรับได้ และเริ่มมีภาวะทางจิต เห็นภาพหลอน ที่บางครั้งน่ากลัวสุดบรรยาย แต่บางครั้งก็เป็นภาพสวยงามเหนือจินตนาการ
แต่สิ่งสำคัญที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย คือการนำดวงวิญญาณของชายผู้เป็นที่รัก กลับคืนมาจากนรกอันดำมืดของชาวไวกิ้ง และทำให้ Senua จะต้องออกเดินทางไปหาผู้คุมขุมนรก เพื่อยื่นข้อเสนอให้ปลดปล่อยดวงวิญญาณดังที่เธอต้องการ

เมื่อเปิดเกมเข้ามาก็จะเจอหน้าเริ่มต้นเกมคร่าวๆ แบบนี้นะครับ ผมขอเตือนนิดนึงนะครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบการสปอยล์ อย่ากดไปที่ Hellblade feature เพราะมันจะเป็นการเล่าเรื่องราวทั้งหมดของเกม แนะนำว่าให้เล่นเกมให้จบก่อน แล้วค่อยมาเปิดดู เพราะจุดประสงค์ของส่วนนี้คือ ขยายความเนื้อเรื่องให้ผู้เล่นเข้าใจอย่างลึกซึ้งครับ
เกมระดับ AAA กราฟฟิกพลัง Unreal 4 สุดอลังการ แต่มีราคาย่อมเยา ———- 10/10

ในส่วนแรกนี้ จะเป็นเรื่องของกราฟฟิกในเกมนะครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยมครับ สมกับเป็นเกมระดับ AAA ฟิสิกส์ของเส้นผม คลื่นน้ำ ทำออกมาได้ดีจริงๆ โดยทาง Ninja Theory ได้เลือกใช้ Unreal Egine 4 เป็นตัวขับเคลื่อนเกม และแม้ว่ากราฟฟิกจะสวยงามเทียบเท่ากับเกมดังหลายเกม แต่กลับมีราคาถูกกว่าถึงครึ่งหนึ่ง ซึ่งใน Steam ตอนนี้ขายเพียง 559 บาทเท่านั้น!

สำหรับสเปคคอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ มีรายละเอียดดังนี้
OS: Windows 10 Pro 64 bit
CPU: AMD Ryzen 3 1200 OC 4.0 GHz
GPU: Nvidia GTX 1050 Ti 4
RAM: HyperX 2400 MHz 4×2 GB
HDD: 320×2 GB Raid 0
Resolution: 19.5″ LED 1600×900
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหน ได้เคยอ่านบทความที่เป็นผลการทดสอบการเล่นเกม Hellblade: Senua’s Sacrifice ด้วยการ์ดจอรุ่นต่างๆ ในส่วนนั้น จะไม่มีผลการทดสอบการเล่นของ GTX 1050 Ti แต่วันนี้ผมได้ลองเล่นแล้วครับ ผมปรับทุกส่วนเป็น High ทุกอัน (จริงๆ มี Very High ให้เลือกด้วย แต่ผมว่าปรับ High ก็สวยมากแล้ว) สามารถเล่นได้อย่างราบลื่น แทบไม่มีการกระตุกให้เห็นเลยครับ แต่มีข้อสังเกตตรงที่มอนิเตอร์ผมไม่ใช่ระดับ Full HD ถ้าเพื่อนๆ ใช้ความละเอียดที่สูงกว่านี้ อาจจะพบอาการกระตุกบ้างเล็กน้อยในฉากตะลุมบอนครับ แต่การเล่นทั่วๆ ไป เล่นได้ไม่มีปัญหาแน่นอน ด้วย GTX 1050 Ti ส่วนใครที่ใช้การ์ดจอระดับต่ำกว่านี้ เช่น GT 1030 หรือ RX 550 ถ้าปรับรายละเอียดของเกมให้ลดลงมาอีกหน่อย ก็เล่นได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกันครับ

ส่วนสเปคเครื่องที่ทางผู้พัฒนาได้กำหนดไว้มีดังนี้ครับ
OS: Windows 7, 8, 10
CPU: Intel i5 3570K / AMD FX-8350
RAM: 8 GB
GPU: GTX 770 2GB VRAM / Radeon R9 280X 3GB
DirectX: เวอร์ชัน 11
HDD: พื้นที่ว่างที่พร้อมใช้งาน 30 GB
Resolution ขั้นต่ำ: 1280×720
การดำเนินเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ชวนให้อินกับเกมได้มากขึ้น ———- 9.5/10

การดำเนินเรื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มเกมนี้ (และน่าจะเป็นเกือบตลอดทั้งเรื่อง) ทำออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่เลยทีเดียว โดยจะมีเสียงบรรยายของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา เหมือนเป็นการเล่าตำนานของเคลติกให้ลูกๆ ของเธอฟัง ซึ่งเนื้อเรื่องก็จะสัมพันธ์กับตัวเกมอยู่ตลอดเวลาครับ นอกจากนี้เราอาจจะได้ยินเสียงเด็กหัวเราะคิกคัก หรือส่งแรงเชียร์มาให้ Senua ในระหว่างการผจญภัยด้วย

ในการแก้ปริศนาของเกมจะมีที่มาที่ไปของมันอยู่ โดยจะมีเสียงบรรยายบอกแนวทางออกมาเป็นระยะๆ พร้อมทั้งการตามหาเสาหิน ที่บันทึกตำนานของเรื่องนี้เอาไว้ ผมคิดว่าทางผู้พัฒนาใส่ใจกับจุดนี้พอสมควร เพื่อเอาใจแฟนเกมที่ชอบเล่นเกมแบบซึมซับเนื้อเรื่อง

ในส่วนเนื้อเรื่องนี้ผมจะไม่ขอกล่าวอะไรเยอะมาก อย่างหนึ่งคือเพื่อป้องกันการสปอยล์ อย่างที่สองคือผมยังเล่นเกมนี้ไม่จบ…. แต่ไม่เป็นไร เราเล่นมาบ้างก็พอรู้เรื่องราวอยู่ เริ่มต้นที่ Senua ได้เดินทางมายังเขตเมืองที่เป็นทางผ่านสู่ขุมนรก โดยเธอมีจุดมุ่งหมายที่จะนำดวงวิญญาณของชายที่รักกลับคืนมา และปลดปล่อยดวงวิญญาณให้เป็นอิสระ และการที่จะเข้าสู่ประตูยมโลกได้นั้น จะต้องผ่านผู้คุมประตูทั้งสาม ตรงนี้ ผมก็จำไม่ได้และว่ามีอะไรบ้าง เพราะมันจะมีเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นเกม แต่ประตูที่ผมเข้าไปแล้วคือ ปิศาจแห่งภาพลวงตา

ในนั้นจะมีเกมให้แก้ปริศนาอยู่มากมาย แต่มีข้อสังเกตอยู่ว่า การแก้ปริศนามันไม่ค่อยหลากหลายเท่าไร ด่านเดียวกันจะแก้คล้ายๆ กัน และจะต้องแก้แบบนี้ 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังโอเคอยู่นะ เพราะกว่าจะแก้ได้เล่นเอาซะเวียนหัวไปหลายตลบเลยทีเดียว เพราะการแก้ปริศนาในด่านหนึ่งๆ จะมีวิธีเปิดประตูเหมือนกัน แต่กว่าจะทำให้วิธีนั้นสมบูรณ์ได้ ก็ยังมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่เยอะเลยทีเดียว! ถ้าอยากรู้ว่ามันมีเงื่อนงำขนาดไหน ต้องลองเล่นดูครับ ^^
เกมเพลย์ที่สมจริง การต่อสู้สุดมัน คลิกกันเมาส์กระจาย ———- 9/10

เกมเพลย์ของ Hellblade ถือวาทำออกมาได้ดีพอสมควร การควบคุมตัวละครก็ทำได้ไม่ยาก ใช้คีย์พื้นฐานในการเล่นร่วมกับการคลิกเมาส์ ทั้งนี้ สำหรับใครที่คุ้นเคยกับการเล่นเกมมุมมองบุคคลที่สาม ที่มองจากข้างหลังของตัวละคร อาจจะเล่นเกมนี้ได้ไม่ยากเท่าไร แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวนี้บ่อยเท่าไรนัก พอเล่น Hellblade ไปได้สักพัก ผมรู้สึกเวียนหัวและตัวร้อนขึ้นมาทันที ==” เลยต้องหยุดพักหลายครั้ง แต่หลังๆ มาเริ่มชินละ ซึ่งจริงๆ แล้วระบบการควบคุมตัวละครนั้นทำออกมาได้ดีเยี่ยมเลยนะครับ ถ้าเพื่อนๆ ได้ลองเล่นก็จะรู้เอง

ส่วนแอคชั่นของตัวละครนั้น ผมไม่แน่ใจว่าด่านต่อๆ ไปมันจะมีเยอะขึ้นกว่าเดิมไหม แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบเกมแอคชั่น (อย่างเช่นตัวผมเอง) Hellblade ก็ทำออกมาได้โอเค แต่ความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่ามันมีมาให้น้อยไปหน่อย อยากให้มีต่อสู้เยอะกว่านี้ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเกมแบบดำเนินเนื้อเรื่องเนอะ ถ้าแอคชั่นเยอะเกินไป ก็จะทำให้เราหลุดโฟกัสจากเนื้อเรื่องได้ง่าย และมันก็ทดแทนกันได้ในเรื่องของวิธีการต่อสู้ของตัวละคร ที่มีการบล็อคการโจมตี การหลบหลีก การกระโจนเข้าต่อสู้ ที่ทำออกมาเล่นได้อย่างราบลื่น ดูสมจริง

บทสรุป
ราคา ———- 10/10
เกมเพลย์ ———- 9/10
เนื้อเรื่อง ———- 9.5/10
กราฟฟิก ———- 10/10
รวม ———- 9.6/10

สำหรับ Hellblade: Senua’s Sacrifice เป็นเกม Action adventure ระดับ AAA เกมหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ด้วยราคาที่ไม่แพง และมีการใช้สเปคคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม ไม่กินทรัพยากรมากเกินไป ทำให้เพื่อนๆ สามารถเล่นได้อย่างราบลื่น ในด้านของเกมเพลย์ก็เหมาะที่จะเล่นได้ในคอเกมหลายๆ กลุ่ม ขึ้นอยู่กับว่าใครอยากจะซึบซับรายละเอียดในเกมทางด้านไหน ส่วนความสนุกจะมากน้อยแค่ไหน ผมอยากให้ทุกคนได้ลองเล่น และจะรู้ว่าเกมที่ราคาดีและมีคุณภาพมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

Game-Neon